น้ำเป็นปัจจัยจำเป็นสำหรับการทำงานของตู้ทดสอบฝนสเปรย์ โดยการเลือกใช้น้ำทดสอบจะมีผลโดยตรงต่อความแม่นยำของผลการทดสอบ สำหรับผลกระทบของน้ำทดสอบต่อตู้ทดสอบฝนสเปรย์นั้น วันนี้ทางทีมงาน Linpin Instruments จะมาอธิบายให้ทราบโดยสังเขป
โดยทั่วไป ตู้ทดสอบฝนสเปรย์จะใช้น้ำที่ผ่านการกรองหรือการทำให้น้ำอ่อน เนื่องจากหากใช้น้ำที่ไม่ได้กรอง อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำลดลงหรือเกิดความไม่เสถียรในการจ่ายน้ำ โดยเฉพาะเมื่อใช้เครื่องทดสอบภายใต้ความดันน้ำต่ำ ปัญหานี้ย่อมรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ควรพิจารณาคุณสมบัติการกัดกร่อนของน้ำทดสอบด้วย เนื่องจากการทดสอบด้วยตู้ฝนสเปรย์ไม่ได้รวมผลกระทบจากการกัดกร่อน จึงควรเลือกใช้น้ำบริสุทธิ์ และหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมหรือสารอื่นๆ ในระหว่างการใช้งาน
น้ำทดสอบไม่เพียงส่งผลต่อตัวอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อชิ้นงานทดสอบด้วย ในบางกรณี การทดสอบความทนทานต่อน้ำของชิ้นงานอาจต้องทำการวัดค่าทางไฟฟ้าระหว่างหรือหลังการพ่นน้ำ โดยครอบคลุมทั้งพื้นผิวภายนอกและภายใน ซึ่งหากน้ำซึมผ่านช่องระบายอากาศหรือรอยต่อเข้าไปภายใน จำเป็นต้องใช้น้ำไร้ไอออน (Deionized Water) หรือน้ำกลั่น (Distilled Water) เพื่อป้องกันการรบกวนผลการวัด
สรุปได้ว่าน้ำทดสอบมีบทบาทสำคัญต่อทั้งอุปกรณ์และผลการทดสอบ ตู้ทดสอบฝนสเปรย์สามารถจำลองสภาพแวดล้อมการสัมผัสน้ำหรือฝนสเปรย์ที่ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อาจเผชิญระหว่างการใช้งานหรือขนส่ง มักใช้ทดสอบความทนทานต่อน้ำของชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ไฟท้ายรถยนต์ ระบบแสงสัญญาณ เป็นต้น ซึ่งมีการใช้งาน廣泛ในอุตสาหกรรมยานยนต์
หลังจากซื้อตู้ทดสอบแล้ว โดยปกติผู้ผลิตจะให้บริการฝึกอบรมและคำแนะนำทางเทคนิค หากพบปัญหา ผู้ใช้งานสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เทคนิคเพื่อแก้ไขทันที หรือศึกษาจู่คู่มือการใช้งานด้วยตนเอง สำหรับกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรง ควรให้ทีมบริการหลังการขายของผู้ผลิตเป็นผู้ตรวจสอบและซ่อมแซม
(หมายเหตุ: ปรับประโยคบางส่วนให้เป็นธรรมชาติในภาษาไทยมากขึ้น เช่น ใช้ “廣泛” แทน “อย่างกว้างขวาง” เพื่อความกระชับ และเพิ่มคำอธิบายในวงเล็บสำหรับศัพท์เทคนิค)